อยากเปิดร้าน เพราะเจอหมอฟัน!!
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ร้าน DragCura ของเรา เกิดจากการไป […]
Q : ในช่วงนี้เริ่มมีการ ผ่อนปรนในการเปิดห้างร้าน หรือบริการอื่นๆได้แล้ว แต่สำหรับคลินิคทันตกรรม ที่เมื่อก่อนมีข่าวว่าเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จากฝอยละอองน้ำลายนั้น การทำฟันขณะนี้ถือว่ามีความปลอดภัยหรือยัง?
A : ต้องยอมรับว่าเชื้อไวรัส COVID-19 เป็นเรื่องใหม่ พอเราไม่มีข้อมูลเรื่องเชื้อโรคนี้เท่าไหร่ เราก็จะกังวลว่า จะติดง่ายหรือไม่ เราจะเห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อตอนนี้น้อยลงแล้ว และทุกคนมีความตระหนักในเรื่องนี้ เพิ่มการระมัดระวังมากขึ้น ส่วนเรื่องจองคิวนั้น สำหรับคลินิคทันตกรรมนั้นเราไม่ได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นโรคแรก แต่เราเผชิญกับการติดเชื้อมาตลอด อย่างไข้หวัดใหญ่ หัดเยอรมัน เป็นต้น
รวมถึงหน่วยงานทางการแพทย์อื่นๆ ก็เผชิญเรื่องนี้มาบ่อยครั้ง แม้ไม่ใช่เชื้อ COVID-19 ก็ตาม ในส่วนช่วงนี้ก็ได้มีมาตรการเสริมความมั่นใจ ให้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และคนไข้ด้วย
ด้านมาตรการการดูแลหลังผ่อนปรนนั้น ในคนไข้ที่ยังต้องการการรักษาทางทันตกรรม สามารถมาทำฟันได้อย่างสบายใจ เพียงแต่ว่าชนิดของการรักษา ไม่ให้เกิดความเจ็บปวด หรือเจ็บปวดแล้วต้องรักษา ไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างฟอกสีฟัน แบบนั้นอาจจะชะลอไว้ก่อน
โดยในคลินิคทันตกรรมนั้น มีทั้งมาตรการป้องกัน Social Distancing และการคัดกรอง เพื่อให้คนไข้มั่นใจได้แน่นอน
Q : ในกรณีที่ฟันผุแล้ว แต่ยังไม่ปวด เราสามารถ ไปทำฟันได้ไหม หรือว่าต้องรอก่อน
A : มาอุดได้เลยแม้ว่าจะไม่ปวดก็ตาม เพราะการผุเป็นช่อง มีรู ถ้าไม่รักษาก็จะผุมากขึ้น จนถึงขั้นรักษารากฟันได้
Q : สำหรับห้างร้านอื่นๆ อาจจะมีมาตรการป้องกันอย่างที่กั้น หรือแยกโต๊ะอาหาร สำหรับคลินิกทำฟัน มีมาตรการอย่างไรเพื่อให้คนไข้มั่นใจในการรักษาได้บ้างครับ
A : มาตรการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เราคิดถึงคนไข้เป็นหลัก รวมถึงบุคลากรที่ทำการรักษาอย่างทันตแพทย์ ผู้ช่วยทันตแพทย์ด้วย และเจ้าหน้าที่ในคลินิกด้วย ไม่ได้เป็นการป้องกันที่กลัวว่าจะติดกันระหว่างคนไข้ แต่ยังห่วงการติดต่อระหว่างคนไข้ กับคนไข้ก่อนหน้านี้ด้วย รวมถึงการติดเชื้อจากคลินิก ไปติดคนที่บ้านด้วย
ดังนั้นจึงต้องเข้มงวดในมาตรการต่างๆ ทั้งการซักถามประวัติคนไข้ก่อนเข้ารับการรักษาว่า ไอ หรือเจ็บคอหรือไม่? ได้กลิ่นน้อยลง ลิ้นรับรสได้ปกติหรือไม่? เคยสัมผัสกับผู้ป่วย COVID-19 หรือเคยเดินทางไปต่างประเทศช่วงนี้ไหม?
ในเรื่อง Social Distancing ที่เราอาจจะขอไม่ให้มีผู้ติดตาม หรือถ้าต้องมีก็ไม่เกิน 1 คน ซึ่งจะต้องมีที่นั่งห่างกัน สวมใส่Mask ตลอดเวลา และมีเจลแอลกอฮอล์ให้บริการด้วย
รวมถึงการใส่ชุดหมี ที่ป้องกันการแพร่กระจาย ปิดมิดชิดหรือที่เราเรียกว่าชุดหมีนั่นเอง
Q : อยากให้คุณหมอช่วยอธิบายเรื่องของชุดหมีได้ไหมครับ
A : จริงๆ แล้วชุดหมีมีอีกชื่อหนึ่งก็คือ ชุด PPE นั่นเอง ซึ่งมีหลายเลเวลในการป้องกัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าทำการรักษาแบบไหน
Q : สำหรับฝั่งคนไข้จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร ก่อนทำการรักษาหรือไม่ครับ
A : การเตรียมตัวมาหาหมอฟัน ก็คล้ายกับขั้นตอนเดิมๆ เช่นการโทรนัดหมาย แต่ก็มีเพิ่มเติมนิดหนึ่ง เช่น การทำให้คนไข้พบปะกันให้น้อยที่สุด แล้วในพื้นที่คลินิกมีคนอยู่น้อยที่สุด แล้วภายหลังการโทรนัด คนไข้ก็ต้องมาให้ตรงเวลาไม่ใช่กลัวว่าคนไข้จะมาสายอะไร แต่เป็นการระวัง ไม่ให้มีการเพิ่มคนไข้ในพื้นที่คลินิกมากขึ้น
แล้วก็ต้องทำความสะอาดแปรงฟันก่อนมาพบแพทย์ และขอให้ตอนที่โทรนัดหมายนั้น เราต้องขอว่าอย่าเคืองกันถ้ามีการซักถามเยอะ เพื่อทราบถึงมีอาการที่เสี่ยงต่อ COVID-19 หรือไม่ รวมถึงประวัติของอาการต่างๆ รวมถึงอาการแพ้ยา ที่อาจมีการถามซ้ำบ้าง เพราะว่าก่อนการรักษาเราจะให้มีการบ้วนปาก ถ้ามีอาการแพ้น้ำยาประเภทใดประเภทหนึ่ง เราก็จะได้เลือกน้ำยาได้ถูกกับคนไข้
Q : ถึงจุดนี้แล้ว เราอาจจะไม่ห่วงเรื่องการติดเชื้อ COVID-19 จากหมอแน่นอน แต่ก็ยังห่วงเรื่องการติดเชื้อจากคนไข้ที่มารักษาก่อนหน้านี้ ทางคลินิกจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร ให้คนไข้มั่นใจในความสะอาด และปลอดภัยบ้างครับ
A : ต้องบอกว่า COVID-19 ไม่ใช่โรคแรกที่ติดผ่านฝอยละออง ยังมีโรคอื่นๆที่เรารู้จักมาก่อน บางโรคติดง่ายกว่าCOVID-19 อีก ซึ่งเรามีการทำความสะอาดพื้นผิว ที่มีการสัมผัสต่างๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด และมีเครื่องดูดฝอยละอองในขณะที่ทำการรักษา อีกทั้งยังมีเครื่องดูดอากาศ รวมถึงฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆ หรือเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้แล้วทิ้ง
นอกจากนี้ ระยะเวลาในการเว้นห่าง ระหว่างการรักษาเคสกับอีกเคสนั้น เราจะเว้นระยะให้นานขึ้น เพื่อการทำความสะอาดนั่นเอง จะมีการเว้นช่วงไม่นัดถี่ เป็น New Normal ของการทำฟัน เรื่องนี้คนไข้สามารถสบายใจได้เลย
Q : หมายความว่าถ้าจะทำฟันช่วงนี้ก็หายห่วงได้เลยใช่ไหมครับ เพียงแต่ละเว้นการทำฟันในเคสเพื่อความสวยงาม
A : ไล่แบบนี้ดีกว่า ที่ควรมาทำก็คือเคสที่ฉุกเฉิน ก่อนฉุกเฉิน รวมถึงการรักษาที่คงค้างไว้ก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดCOVID-19 ที่ควรทำต่อให้เสร็จก่อนที่จะมีผลระยะยาว เว้นไว้เหลือเคสที่เพื่อความสวยงาม เว้นไว้สักระยะแล้วค่อยทำก็ได้
Q : ในเคสที่ต้องขูดหินปูนสามารถทำได้ไหม เพราะบางหินปูนเยอะจนเป็นเหงือกอักเสบ
A : แบบนี้ต้องมารักษาโดยด่วน บางคนอาจจะบวมเพราะหินปูนมาก จนเป็นไข้เพราะเหงือกอักเสบก็ได้ หรืออาจจะเกิดฟันโยกจนต้องถอนออกก็ได้ ต้องได้รับการรักษา ถ้าไม่มั่นใจก็สามารถถามแพทย์
ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง การที่เราคุยกันว่าเราควรทำฟันหรือไม่ ในช่วงนี้ เราพบว่ามีบางเคสฟันผุทะลุเป็นรูใหญ่ และมีเคสนี้ที่มาหาเยอะมาก ไม่ว่าจะเรื่องฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน หรือหินปูนเกาะเยอะมาก เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าทุกคนตระหนักเรื่องการดูแลฟันด้วยตัวเอง ถ้าเราแปรงฟันสะอาด ใช้ยาสีฟันมีฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน ฟันเราก็ไม่ผุ เหงือกไม่อักเสบ หินปูนไม่มี
การที่มีเคสรักษาเหล่านี้เยอะ นั่นหมายความว่าคนในสังคมเราเอง ยังไม่ตระหนักว่าเราดูแลสุขภาพฟันเองได้ ตอนนี้ต่อให้มีการแพร่ระบาดของโรค เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาหมอฟันเลย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่การที่เราไปพบทันตแพทย์
Q : สุดท้ายแล้ว หมอแคทจะมีข้อแนะนำในการดูแลฟันช่วงนี้ให้ห่างไกลจากโรคต่างๆอย่างไร
A : ง่ายที่สุดคือการแปรงฟันให้สะอาดด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แต่การแปรงฟันที่เรียกว่าสะอาดนั้น บางทีในมุมมองของหมอฟัน และคนไข้อาจไม่เหมือนกัน คนไข้บอกว่าทำดีสุดๆแล้ว แต่คำว่าดีสุดๆนั้นอาจไม่ตรงกับของคุณหมอ ซึ่งเรื่องนี้สามารถถามทันตแพทย์ได้ว่าให้แปรงฟันสะอาดกว่านี้ทำอย่างไร ใช้ไหมขัดฟัน หรือแปรงขัดฟันอย่างไร เรื่องนี้ต้องมีความร่วมมือกัน
ทั้งนี้อาหารที่เราทานปัจจุบันมีแต่ขนม ที่มีแป้งและน้ำตาลซึ่งสาเหตุหลักๆ ของฟันผุ ยิ่งทำงานอยู่บ้าน Work Form Home อยู่บ้านก็จะกินบ่อยขึ้น ยิ่งมีอัตราฟันผุได้สูงขึ้น สุดท้ายเราอยากให้ทุกคนหันกลับมาดูแลสุขภาพปากของตัวเอง
เราอยากให้ทุกคนมีความรู้สึกแบบนั้นว่าดีใจจังจะได้แปรงฟัน จะได้มีสุขภาพช่องปากที่ดี เหมือนตอนเสริมสวยหรือทำผม ถ้าคิดแบบนี้ได้เราจะมีสุขภาพช่องปากได้ดีแน่นอน
สรุปแล้วว่าช่วงนี้การทำฟันก็หายห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้เลย ถ้าเจ็บก็ไม่ต้องรอ พบแพทย์ได้ทันที และถ้าทางคลินิกมีการซักถามมากเป็นพิเศษอย่าเพิ่งรำคาญกัน เพื่อความปลอดภัยของทุกคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลฟันให้ดีด้วยตัวเอง ป้องกันก่อนการเกิดโรค ถ้าเกิดอนาคตมีเหตุการณ์แบบนี้อี เราก็จะไม่มีความกังวลหรือเจ็บปวดจากฟันอีกแน่นอน